
ทำไมการเดินเงินถึงสำคัญในบาคาร่า?
บาคาร่าเป็นเกมที่โอกาสแพ้–ชนะระหว่าง Player กับ Banker ค่อนข้างใกล้เคียงกัน คือ 49% ต่อ 50% (Banker ได้เปรียบนิดหน่อย)แต่เพราะบาคาร่าไม่มีการควบคุมไพ่ และแต่ละรอบเป็นการสุ่ม — คุณไม่สามารถ “ชนะทุกตา” ได้แน่นอนดังนั้นสิ่งเดียวที่คุณควบคุมได้คือ “จำนวนเงินที่ลงในแต่ละตา” หรือที่เรียกว่า “การเดินเงิน”การเดินเงินที่ดี จะช่วยควบคุมจังหวะเสีย/ได้ ทำให้คุณอยู่ในเกมได้นานพอที่จะรอจังหวะฟื้นคืนทุน และมีกำไรตามเป้าหมาย
กลยุทธ์เดินเงินยอดนิยมในปี 2025
Martingale — ทบเมื่อแพ้
เป็นกลยุทธ์ที่เก่าแต่ยังนิยมในหมู่ผู้เล่นสายทุนหนา โดยหลักการคือ ทุกครั้งที่แพ้ ให้เพิ่มเงินเป็น 2 เท่า เพื่อให้เมื่อชนะ 1 ครั้ง จะได้ทุนทั้งหมดคืน + กำไร 1 หน่วย
ตัวอย่าง:
เริ่มเดิมพันที่ 100 บาท
แพ้ แทง 200 แพ้อีก แทง 400 แพ้อีก แทง 800 ชนะ = ได้คืนทั้งหมด + กำไร 100
ข้อดี: ได้ทุนคืนในครั้งเดียว
ข้อเสีย: เสี่ยงขาดทุนหนักถ้าแพ้ติดหลายตา และอาจติดลิมิตโต๊ะ
เหมาะกับ: คนที่มีทุนหนาและควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก
Fibonacci — ค่อย ๆ ทบตามลำดับเลข
กลยุทธ์นี้ใช้ลำดับเลขฟีโบนักชี:
1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21...
เริ่มต้นที่ 1 หน่วย แล้วเพิ่มไปตามลำดับเมื่อตาไหนแพ้
ตัวอย่าง:
เริ่ม 100 แพ้ แทง 100 แพ้อีก แทง 200 แพ้อีก แทง 300 ชนะ = กลับมากำไร 100
ข้อดี: ไม่เพิ่มเงินเร็วเกินไปเหมือน Martingale
ข้อเสีย: ใช้เวลานานกว่าจะคืนทุน ต้องนับลำดับดี ๆ
เหมาะกับ: คนที่อยากลดความเสี่ยงจากการทบหนัก
1-3-2-6 — เดินเงินแบบรอบ
เป็นกลยุทธ์ที่เน้น “เล่นเป็นรอบ” และหยุดทันทีเมื่อรอบล้มเหลว โดยจะเพิ่มเดิมพันตามลำดับ 1–3–2–6 หน่วย หากชนะติดกัน
ถ้าแพ้เมื่อไหร่ ให้เริ่มใหม่ที่ 1 หน่วยเสมอ
ตัวอย่าง:
ชนะรอบแรก (แทง 100) ได้ 100
แทงตาสอง (300) ได้ 300
แทงตาสาม (200) ได้ 200
แทงตาสี่ (600) ถ้าแพ้ตรงนี้ยังมีกำไร
ข้อดี: เก็บกำไรแบบเป็นรอบ ๆ ลดความเสี่ยง
ข้อเสีย: ต้องชนะต่อเนื่องถึงจะได้ผลเต็มรูปแบบ
เหมาะกับ: คนที่ชอบเล่นอย่างมีจังหวะ วินัยสูง
กลยุทธ์ “ใหม่” ในปี 2025 ที่เริ่มได้รับความนิยม
Hybrid Flat + Progressive
ผสมผสานระหว่าง Flat (แทงเท่ากันทุกตา) กับระบบทบ เช่น:
แทง Flat ทุกครั้ง จนกว่าจะเห็นเค้าไพ่ที่มั่นใจ
เมื่อมั่นใจ ใช้ Fibonacci 3 ชั้น จากนั้นกลับมา Flat ใหม่
เป็นระบบที่ “ยืดหยุ่น” และลดความเครียด
ต้องมีวินัยและความเข้าใจพื้นฐานสูง
ระบบ Anti-Martingale (Paroli)
แทนที่จะทบเมื่อแพ้ เหล่าผู้เล่นใหม่ในปี 2025 เริ่มนิยมระบบที่ “ทบเมื่อชนะ” แทน เช่น:
เริ่ม 100 ชนะ แทง 200 ชนะ แทง 400 แพ้ กลับมาเริ่ม 100
ลดความเสี่ยงจากการไล่ทุน
ถ้าแพ้ตาแรกจะเก็บกำไรได้ช้า
เหมาะกับคนที่ชอบ "ปั้นทุนเมื่อชนะ"
ข้อควรระวังในการใช้กลยุทธ์เดินเงิน
อย่าใช้สูตรทบแบบไร้ขีดจำกัด: ทุกโต๊ะมีลิมิตสูงสุด และเงินคุณก็มีขีดจำกัด
ต้องมี “จุดหยุด” เสมอ: ตั้งเป้ากำไร และขาดทุนชัดเจน เช่น ได้ 30% หยุด, เสีย 3 ตาเลิก
ใช้สูตรให้เหมาะกับ “โต๊ะ”: บางสูตรใช้กับโต๊ะสปีดไม่เหมาะ, บางสูตรใช้ได้ดีในห้องเค้าไพ่นิ่ง
สรุป สูตรเดินเงินไม่มีสูตรไหนดีที่สุด — มีแต่สูตรที่เหมาะกับคุณ
ทุกกลยุทธ์การเดินเงินมีข้อดีและข้อจำกัดในตัวเอง Martingale คืนทุนไวแต่เสี่ยงหนัก / Fibonacci ทบช้าแต่ปลอดภัยกว่า / ระบบแบบใหม่ยืดหยุ่นแต่ต้องวางแผนลึก